คอหวยแห่ซื้อเลขที่บ้าน198 หลักถูกรถพุ่งชนเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกถูกหวยกันถ้วนหน้า

ข่าวรถชนร้านก๋วยเตี๋ยว

คอหวยฮือฮา เก๊งเลขที่บ้าน 198 หลังรถพุ่งชนร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกที่พุ่งชนร้าน ชาวบ้านได้นำเลขที่บ้านไปเสี่ยงโชค พากันถูกหวยกันถ้วนหน้า

เมื่อวันที่ 12 ต.ค.56 เวลาประมาณ 02.30น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองระยองได้รับแจ้งจากนางสาว พันธิวา ภูโสภา อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 198  เขตเทศบาลนครระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ว่าได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิซิ สีดำ โหลดเตี้ย (ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) พุ่งชนร้านก๋วยเตี๋ยว ที่ทางสามแพ่งแยก ก้นปึก ปากน้ำระยอง ซึ่งได้ประเมินค่าความเสียหายแล้วประมาณ 2แสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง พบสิ่งของต่างๆภายในร้านก๋วยเตี๋ยว อุปกรณ์ในการทำก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ทั้งเค้าว์เตอร์ขายของ รวมไปถึงประตูบ้านโดยเฉพราะรถเข็นสแตนเลสที่มีราคาเกือบ 1แสนบาท ได้รับความเสียหายหมด ล้มกะจัดกะจายอยู่หน้าร้านเต็มไปหมด และตำรวจได้พบหลักฐานคือบังโคลนหน้ารถสีดำ ได้แตกหักหล่นอยู่ตรงที่เกิดเหตุ โดยคนที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้ฟังว่า เห็นรถเก๋งคันดังกล่าว ได้ขับออกมาจากชุมชนก้นปึกด้วยความเร็ว พอขับมาถึงทางสามแพ่งก้นปึกได้พุ่งตรงเข้ามาทางเสาไฟฟ้าเกือบชน แต่คนขับหักหลบขวาเลยทำให้พุ่งมาทางร้านก๋วยเตี๋ยวพังเสียหาย แล้วคนขับได้ขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ทางด้านเจ้าที่ตำรวจได้เบาะแสคนที่ขับรถชนร้านก๋วยเตี๋ยวแล้ว คาดว่าเป็นคนในพื้นที่ในย่านปากน้ำ ได้ไปส่งสาวที่ก้นปีกพอขากลับได้พุ่งชนร้านดังกล่าว

               ทั้งนี้ ทางด้านเจ้าของร้านคือนางสาวพันธิวา หรือเจ๊ว่า ได้ออกมาเปิดเผยอีกว่า ตัวเองได้เปิดขายก๋วยเตี๋ยวไก่ เย็นตาโฟ และอาหารอื่นๆ มาแล้วนานกว่า 23ปี เป็นที่รู้จักของผู้คนในระแวกเป็นอย่างดี แล้วเหตุการณ์รถชนร้านก๋วยเตี๋ยวนี้ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่2แล้วครั้งแรกเมื่อตนเดือนตุลาคม เมื่อปีที่แล้ว และในครั้งนั้นประชาชนในย่านปากน้ำที่ทราบข่าวได้นำเลขที่บ้านของตนเอง 198 ไปเสี่ยงโชคกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและในงวดนั้นพากันถูกหวยกันถ้วนหน้า และมาในครั้งนี้ครบรอบ 1ปี พอดีได้ย้อยลอยเดิมอีกครั้ง น่าจะเป็นทุกขลาภ เพราะเพื่อนบ้านต่างมาสอบถามและได้นำเลข 198ไปซื้อหวยกันอีกครั้ง ทั้งนี้ทางเว็บ lottonew ก็ขอให้ทุกๆท่านโชคดีถูกหวยกันทุกๆคนครับ 

ที่มาข่าว http://www.dailynews.co.th/crime/239750