ปาฏิหาริย์ ไฟไหม้อาคารพาณิชย์กลางเมืองนครศรีธรรมราช รูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงและพระราชินี ที่ติดอยู่ผนังกับไม่ได้รับเปลวไฟแต่อย่างใด ส่วนพ่อแม่ลูก 4 ชีวิต เกือบถูกอย่างสด โชคดีเจ้าหน้าที่พังประตูเข้าไปช่วยออกมาได้อย่างหวุดหวิด
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.57 เวลา 00.15 น.ร.ต.ท.จรินทร์ หลีเอ็บ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 2 คูหา เลขที่ 23/2 ปากซอยทวดทอง ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รรท.ผกก. พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.ป.นายมนัส พงษ์ยี่หล้า รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยต่างๆ พร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลฯ 5 คัน และชุดผจญเพลิงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นซึ่งเปิดเป็นร้านชื่อ วีพีเอส มินิมาร์ท โดยเพลิงลุกไหม้ที่ชั้นล่างอย่างรุนแรง ทราบว่ามีคนติดอยู่ในบ้านชั้น 2 จำนวน 4 คน เป็นพ่อแม่ลูก เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันใช้ขวาน ค้อน และเหล็กชะแลงงัดพังประตูเหล็กม้วนหน้าบ้าน และพยายามฉีดน้ำดับเพลิงในจุดบันไดขึ้นชั้น 2 เพื่อขึ้นไปช่วยผู้ที่ติดอยู่ด้านบน โดยสามารถช่วยเหลือให้รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดทั้ง 4 คน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้รถดับเพลิง ที่ระดมมาช่วยฉีดน้ำจำนวน 5 คัน จนเวลาผ่านไปเกือบ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยข้าวของชั้นล่างได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งสินค้าของชำ เครื่องถ่ายเอกสาร คอมพิวเตอร์ รถจยย. ตู้เย็น ตู้แช่ รวมค่าเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท
จากการสอบสวนทราบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นของนางชไมพร รัตนวิมลมาลย์ อายุ 39 ปี ซึ่งให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยนายเฉลิมชัย สามีและลูกๆ อีก 2 คน รวม 4 คนได้ปิดร้านแล้วขึ้นไปนอนในห้องพักชั้น 2 จนกระทั่งมีไฟไหม้ที่ชั้นล่าง มีควันควันพวยพุ่งออกมา เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์พยายามตะโกนเรียก แต่ตนไม่ได้ยิน จนเพื่อนบ้านโทรศัพท์ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่เขียนไว้หน้าร้าน ตนจึงตื่นขึ้น แต่ปรากฏว่าเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่สามารถออกจากบ้านได้เพราะไฟไหม้อยู่ที่ชั้นล่าง ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและมูลนิธิพังประตูเข้ามาช่วยเหลือตน สามีและลูกๆ ออกจากร้านไปได้อย่างปลอดภัยทั้ง 4 คน ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจนลุกลามไหม้ไปทั่วร้านชั้นล่าง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณชั้นล่าง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะแม้ว่าข้าวของในร้านจะถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด แต่พบว่าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่แขวนอยู่บนผนัง ไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงคราบเขม่าควันไฟสีดำติดรอบๆ บริเวณกรอบพระบรมฉายาลักษณ์ กับความเสียหายเล็กน้อยที่เกิดจากการฉีดน้ำดับเพลิงเท่านั้น ในส่วนของพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เห็นถึงกับยืนนิ่ง ก่อนจะยกมือไหว้ท่วมหัว
ที่มาข่าว ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/441208