เมื่อวันที่ 29 เม.ย.57 ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ชาวสมุทรสงคราม พากันฮือฮา ร่างแม่ชีเจริญ ถือชื่อ ที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2 ปี แต่สถาพร่างกายไม่เน่าเปื่อย ซึ่งได้สร้างความฮือฮาให้แก่ลูกหลานเป็นอย่างมาก อยู่ที่วัดช่องลมธรรมโชติ จนลูกหลานได้ลงมติจะนำร่างแม่ชีไปบรรจุไว้ที่โลงแก้ว เพื่อเก็บรักษา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดช่องลมธรรมโชติ
เมื่อไปถึง พบบรรดาลูกศิษย์และลูกหลานของแม่ชีเจริญ อยู่กันจำนวนมาก ซึ่งต่างก็กำลังเตรียมงาน เพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศล อายุครบ 100 ปี ให้แก่แม่ชีเจริญ จากการสอบถามลูกสาวคนเล็กของแม่ชีเจริญ คือนางแจ่มจันทร์ กุศลส่งเจริญ อายุ 53 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า ได้ทำการเปิดโลงศพของแม่ชีเจริญซึ่งอยู่ในโลงไม้นาน2 ปี พบว่าสภาพศพของแม่ชี ไม่เน่าไม่เปื่อย แต่ผิวหนังตลอดตัวแห้งเป็นสีน้ำตาลคล้ำ และมีเส้นผมงอกออกมา ใบหน้าเหมือนคนปกติ แต่ดวงตาลืมค้าง ซึ่งนอกจากผมที่งอกยาวออกมาแล้ว ยังพบว่า เล็บ ขนคิ้ว ขนตา ก็ยังไม่ร่วง สร้างความฮือฮา ให้กับผู้พบเห็น ต่างพากันวิพากษืวิจารณ์ไปต่างๆนานา นางแจ่มจันทร์ จึงทำความสะอากศพและเปลี่ยนชุดใหม่ให้ศพของมารดา แล้วนำศพบรรจุใส่โลงแก้วตั้งไว้ในศาลาหลังใหม่ของวัดช่องลมธรรมโชติเพื่อให้ผู้ที่ศรัทธาได้ศึกษา บูชา และกราบไหว้
ทั้งนี้ พอหลังจากข่าวนี้ได้แพร่สพัดไปถึงหูชาวบ้านได้ไม่นาน ชาวบ้านทั้งที่อยู่ใกล้เคียงก็ต่างพากันเดินทางมากราบไหว้ โดยเชื่อว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และยังเป็นอานิสงค์จากการที่แม่ชีเป็นผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ และเคร่งคัดในศิลปฎิบัติธรรม จึงชาวบ้านต่างพากันขอพร ทั้งยังพากันขอหวย ขอโชคลาถ ขอเลขเด็ดในงวดนี้กันอีกด้วย ซึ่งได้มีเซียนหวยบางราย ได้นำตัวเลขที่อยู่ข้างโลงไม้ คือ 459 และเลขโลงแก้ว 194 ไปตีเป็นเลขเด็ดอีกด้วย
ทางด้านพระครูสมุทรกิตติวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดช่องลมธรรมโชติ ได้ออกมากล่าวว่า ไม่อยากให้ลูกหลานของแม่ชีเจริญงมงายในเรื่องของหวย แต่ต้องการให้ลูกหลานแม่ชีเจริญเป็นตัวอย่าง ในการปฎิบัติธรรม ขนาดตายไปแล้วก็จะมีกลิ่นหอมศพไม่เน่า สำหรับแม่ชีเจริญ ถือชื่อ เกิดเมื่อ พ.ศ.2457 เป็นชาวอ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีบุตรธิดารวม 17 คน เริ่มหันหน้าเข้าสู่พระพุทธศาสนาโดยการบวชชีเมื่ออายุได้ 55 ปี ที่สำนักเนกขัมมาภิรมย์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรีตลอดระยะเวลาที่ถือศีล 10 ได้ปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดมีนิสัยเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักในการทำบุญสุนทาน เป็นสตรีคนเดียวที่เดินธุดง บริเวณชายป่าจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี ด้านชายแดนติดประเทศพม่าเมื่อปี พ.ศ.2536 ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดตรีจินดาวัฒนาราม ต.บางกุ้ง อ.บางคนที กระทั่งปี พ.ศ. 2542 จึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดช่องลมธรรมโชติ ก่อนจะเสียชีวิตลงด้วย ด้วยโรคชราที่รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 55 ด้วยวัย 98 ปี ก่อนที่ทางคณะสงฆ์และญาติจะเก็บศพไว้โดยไม่ทำการประชุมเพลิงเนื่องจากแม่ชีเจริญ ได้สั่งเสียกับบรรดาลูกๆไว้ว่าเมื่อตนตายไป ศพจะไม่เน่าไม่เปื่อยและหากใครไม่เชื่อนำศพไปเผาก็จะมีอันเป็นไป
ที่มาข่าวจาก เดลินิวส์