เมื่อวันที่ 15ต.ค.56ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่ศาลาในวัดหันตรา ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนายสมภพ นพคุณ อายุ 76 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื่อ อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 1 ต.หันตรา และภายในงาศพสิ่งที่ทำให้ชาวหันตราขนหัวลุกคือ พบรอยเท้าคน ตั้งตั้งแต่หน้าศาลาเดินไปหาโรงศพ แล้วรอยเท้าก็หายไป นับรอยเท้าแล้วได้ 13 ก้าว พื้นเป็นพื้นปูกระเบื้องซึ่งปรากฏให้เห็นรอยเห็นได้อยากชัดเจน ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้แก่ญาติๆผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก
ผู้ที่เห็นรอยผู้นี้เป็นคนแรกคือ นายเวหน หอมจันทร์ อายุ 68ปี ซึ่งเป็นหลานของผู้ตายได้เล่าให้ฟังว่า ศพได้ตั้งตั้งแต่วันที่ 12ต.ค.และจะเผาในวันที่ 15ต.ค. ก่อนหน้านั้นเหตุการณ์ปกติมาตลอด จนกระทั้งช่วงเย็นวันที่ 14 ต.ค. ตนกับญาตได้มาเปิดศาลาเพื่อเตรียมจัดงานสวดศพ และก็ได้พบกับรอยเท้าคน ตอนแรกนึกว่ารอยเท้าโจร แต่สำรวจข้าวของแล้วไม่มีอะไรหายหรือรอยงัดแต่อย่างใด จึงตรวจสอบรอยเท้าอย่างละเอียดและพบว่าเป็นรอยเท้าของผู้ตายเพราะลักษณะเท้าเหมือนกับผู้ตาย ทั้งรอยเท้ายังเป็นรอยเดินตั้งแต่หน้าศาลาจนมาหยุดที่หน้าโลงศพ แล้วหายไปอย่างลึกลับ ตนเลยเชื่อว่าเป็รอยเท้าของผู้ตายอย่างแน่นอน
ขณะที่ภรรยาของผู้ตาย นางทวีป เจริญศิลป์ อายุ 63ปี ก็เชื่อว่าเป็นรอยเท้าของผู้ตายอย่างแน่นอน เพราะคืนก่อนที่จะพบรอยเท้า ตนได้กลับเข้าบ้านที่น้ำท่วมอยู่ และได้นอนอยู่ข้างเตียงที่ผู้ตายได้นอนรักษาตัว ในขณะนอนก็ได้ยินเสียงไอและได้หันไปปรากฏเห็นผู้ตาย ตนเลยบอกไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงไม่ต้องกลัวอะไร ตนจึงเชื่อว่าเป็นรอยเท้าของสามีอย่างแน่นอนที่มาตามหาร่าง หลังจากที่ได้ไปหาตนที่บ้าน
ทางด้านพระลูกวัดได้กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 14ต.ค. มีเสียงหมาเห่าและหอนอยู่ที่หน้าศาลาเป็นจำนวนมาก และได้พากันใช้ไฟฉายส่องดูก็ไม่พบเห็นคนแต่อย่างใด ทั้งที่ไม่มีเสียงหมาหอนมาหลายคืนแล้ว อีกทั้งประตูศาลาก็ยังถูกปิดสนิทอยู่เหมือนเดิม
ขอบคุณข่าวจาก http://www.dailynews.co.th และ เรื่องเล่าเช้านี้