ฮือฮา ชาวบ้านหว่านแห พบพญานาค อยู่ในน้ำเห็นตัวนิ่มๆ พอเอาขึ้นมากลับเป็นเนื้อทองสัมฤทธิ์ ชาวบ้านเชื่อเป็นพญานาคจริงแห่มากราบไหว้บูชานับพันคน ก่อนที่จะมีการนำไปพิสูจน์
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.58 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านแก่นทราย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด มีประชาชนนับพันคนแห่มาดูพญานาคที่มีชาวบ้านออกไปทอดแห่ได้มา โดยตอนติดแห่ตัวยังนิ่มๆ พอเอาขึ้นมากับเป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งได้สร้างความฮือฮาให้แห่ชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก โดย”พญานาคสัมฤทธิ์” ผู้ที่พบคนแรกและเป็นคนหว่านแหได้คือ นายสายันต์ จอมคำสิงห์ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นผู้เก็บพญานาคไว้อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ที่แก่นทราย หมู่ 15 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านจำนวนมาก และพบ นายสายันต์ เจ้าของพญานาค นายสายันต์ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูสัมฤทธิ์ดังกล่าวที่เก็บไว้อยู่ภายในบ้าน แต่พบว่ามีอุปสรรค์เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและปลัดอำเภอเมืองร้อยเอ็ด แจ้งว่าเข้าข่ายหลอกลวง จึงจะขอนำ พญานาคสัมฤทธิ์ ไปตรวจพิสูจน์ และสั่งห้ามให้ประชาชนเข้าไปดูและบูชาเด็ดขาด ซึ่งทำให้ชาวบ้านไม่พอใจอย่างมาก จึงทำให้ชาวบ้านต่างด่าทอสาปแช่งเจ้าหน้าที่ ผู้ใหญ่บ้านจึงต้องออกมาชี้แจงกับชาวบ้าน จนเจ้าของพญานาคสัมฤทธิ์จึงยินยอมมอบให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบตามคำร้องขอ
ทั้งนี้ นางเทียมจันทร์ จอมคำสิงห์ เจ้าของพญานาคสัมฤทธิ์ ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงประมาณ 3 วันก่อน นายสายันต์ จอมคำสิงห์ สามี ได้ไปทอดแหหาปลาใน “หนองมะนาว” ที่อยู่ติดกับหมู่บ้านโดยตั้งแต่เช้า นายสายันต์ได้ทอดแหหาปลาแต่ก็ไม่ได้ปลาสักตัว กระทั่งช่วงบ่าย ขณะทอดแหลงไปริมหนองมะนาว เห็นน้ำเป็นฟองนึกว่าปลาช่อน เลยหว่านแหลงไป ดึงขึ้นมาเป็นพญานาค ตัวนิ่มๆ แต่พอเอาขึ้นมากลายเป็นทองสัมฤทธิ์ จากนั้นนายสายันต์จึงได้นำมาตั้งบูชาไว้ที่บ้าน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีข่าวว่าบ้านของนายสายันต์มีพญานาคสัมฤทธิ์ตัวนี้อยู่ ข่าวแพร่ออกไป ประชาชนและชาวบ้านในหมู่บ้าน รวมถึงเซียนหวยเมื่อทราบข่าว ต่างเดินทางเข้ามาขอดูวันละกว่า 1,000 คน บางคนถึงขั้นนำขันข้าวตอก ดอกไม้ มากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภจากพญานาคสัมฤทธิ์ดังกล่าวตามความเชื่อ ขณะที่เซียนหวยต่างก็ตีเป็นเลขเด็ด และเตรียมนำเลขที่บ้านไปซื้อหวยเสี่ยงโชคตามระเบียบ
นายสายันต์และนางเทียมจันทร์ เจ้าของพญานาคสัมฤทธิ์ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกเสียใจมากที่เบื้องต้นตำรวจกล่าวหาว่าเข้าข่ายหลอกลวง และจะยึดพญานาคสัมฤทธิ์ของตนไป ตอนแรกรู้สึกเสียใจและเสียดาย แต่เมื่อได้รับการชี้แจงทางกฎหมายแล้วต้องเป็นสมบัติของชาติ จึงยินยอมให้ไปตรวจพิสูจน์ ถ้าเป็นของจริงก็ให้ไป แต่ถ้าไม่ใช่ของจริงก็ยังต้องการรับกลับคืนมาบูชาที่บ้านต่อไป
ขณะที่นางเทียมจันทร์ กล่าวอ้างด้วยว่า เป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว ขณะที่ตนขายอาหารและก๋วยเตี๋ยวอยู่ริมหนองมะนาว แทบทุกวัน มักจะพบเห็นพญานาคโผล่ขึ้นมาเล่นน้ำเป็นประจำ จนกระทั่งทอดแหติดพญานาคดังกล่าว และเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านยังได้ถ่ายรูปพบพญานาค 2 ตัวโผล่ขึ้นเล่นน้ำในยามค่ำคืนด้วย นับเป็นปาฏิหาริย์ที่ตนและชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล และโชคดีในเร็วๆนี้ โดยตนคิดว่าหากไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ข่าวล่าสุด เมื่อวันที่ 24 เม.ย.58 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า หลังจากที่ได้นำพญานาคสัมฤทธิ์ ไปตรวจสอบพบว่า พญานาคไม่ใช่โบราญวัตถุ ชาวบ้านจึงบุกไปถึงโรงพักเพื่อขอคืน เพราะเชื่อว่าพญานาคองค์ดังกล่าวมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ หลังจากที่ชาวบ้านได้นำกลับมาบูชาแล้ว ซึ่งในเรื่องของเลขเด็ดที่ชาวบ้านตามหากันมากที่สุด เลข 5 และ 7 เพราะเป็นเลขที่บ้านที่ทอดแหติดพญานาค ซึ่งทำให้พ่อค้าที่มาเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ขายเลขที่มีหลัก5กับ7ดังกล่าว ขายถึงใบละ 120 บาท เนื่องจากเป็นเลขดัง
ที่มาข่าว http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1429872234